Please note ThinkMarkets does not provide CFD services to residents of the US.
เทรดวันนี้ - เข้าร่วมกับเทรดเดอร์หลายพันรายที่เลือกใช้โบรกเกอร์ที่ให้บริการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เจ้าแรก
ความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เทรดเดอร์ทุกคนตั้งแต่มือใหม่จนถึงผู้เชี่ยวชาญจำเป็นต้องรู้คำศัพท์ทางเทคนิคจำนวนมาก ให้เราช่วยแนะนำคุณ
ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ระดับใด ให้ดาวน์โหลดคู่มือการเทรดฟรีของเราแล้วพัฒนาทักษะของคุณ
เทรดอย่างชาญฉลาด: ยกระดับทักษะของคุณด้วยทรัพยากรการฝึกอบรมของเรา
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้ทันความเคลื่อนไหวทุกครั้งในตลาดด้วยปฏิทินเศรษฐกิจที่อัพเดตอย่างต่อเนื่องของเรา
ใช้ข้อมูลที่ผ่านมาในตลาดเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาและทำนายความเคลื่อนไหวในตลาด
ใช้ความสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตลาดที่คุณต้องการเพื่อสร้างกลยุทธ์การเทรดของคุณ
สร้างความเติบโตให้ธุรกิจของคุณและรับผลตอบแทน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมพันธมิตร
เพิ่มรายได้ของคุณแล้วรับค่าตอบแทนจากความรู้ในการเทรดของคุณด้วย ThinkInvest ที่ให้คุณสามารถตัดสินใจได้เอง
ThinkMarkets ตรวจสอบให้มั่นใจว่าระดับความพึงพอใจของลูกค้าอยู่ในระดับสูงด้วยอัตราการแปลงเป็นลูกค้าและอัตราการรักษาลูกค้าในระดับสูง
ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับเราเพื่อสร้างธุรกิจ Prop Trading ของคุณเอง สามารถสอบถามกับผู้จัดการบัญชีได้แล้ววันนี้
เรามอบทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อสร้างแบรนด์ของคุณในอุตสาหกรรม Forex
เป็นพาร์ทเนอร์กับ ThinkMarkets วันนี้เพื่อเข้าใช้บริการที่ปรึกษาและสื่อส่งเสริมการขายที่ครบครันตามงบประมาณของคุณเอง
รับ $50 สำหรับคุณและเพื่อนของคุณ เมื่อคุณเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นเทรดเดอร์ที่นี่กับ ThinkMarkets
เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มยุคใหม่และการเทรดที่ลูกค้าของคุณต้องการ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ThinkMarkets โบรกเกอร์ระดับโลกที่เป็นที่ยอมรับและได้รับรางวัลมากมายซึ่งคุณสามารถเชื่อถือได้
ไม่ตกข่าวด้วยการประกาศข้อมูลและข่าวล่าสุดจากบริษัทของเรา
เมื่อเป็นเรื่องความเร็วที่เราทำการเทรดของคุณ เราทุ่มไม่อั้นเพื่อมอบสิ่งดีๆ ให้คุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ทีมสนับสนุนหลากหลายภาษาของเราจะอยู่ที่นี่เพื่อคุณ 24 ช.ม. ตลอด 7 วัน
ความเชี่ยวชาญสำหรับท้องถิ่นในทั่วทุกมุมโลก - พบกับสิ่งที่ทำให้เราพิเศษกว่าที่อื่น
เข้าถึงและจัดการบัญชีซื้อขายทั้งหมดของคุณได้อย่างสะดวกสบายในที่เดียว
เข้าถึงเครื่องมือและฟีเจอร์การซื้อขายที่ทรงพลังที่สุดได้โดยตรงจากเบราว์เซอร์ของคุณ
เทรดด้วยหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับการยอมรับและใช้งานง่ายที่สุด
สำรวจแพลตฟอร์ม MetaTrade ล่าสุดและเข้าถึงฟีเจอร์และเครื่องมือการซื้อขายขั้นสูง
เข้าร่วมเทรดเดอร์นับพันที่เลือกโบรกเกอร์เจ้าแรกบนอุปกรณ์พกพาสำหรับการเทรดในตลาด
รับเงินทุนจำลอง €25,000 เพื่อพิสูจน์ทักษะของคุณในสภาวะตลาดจริง
Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ยังมีอีกกว่า 1,000 สกุลเงิน นี่คือเหตุผลว่าทำไมพวกมันจึงสำคัญ
เนื่องจากราคาของ Bitcoin ทุบผ่านระดับราคาที่ $7000 โลกการซื้อขายก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็น และแม้ Bitcoin จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรก มันก็ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลเพียงตัวเดียว โดยมีสกุลเงินดิจิทัลกว่า 1,000 แบบ สกุลเงินดิจิทัลคืออะไรกันแน่ และเทรดเดอร์จะได้ประโยชน์จากพวกมันอย่างไร สกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ตที่เดียวเท่านั้น ความแตกต่างกับเงินดิจิทัลที่คุณใช้ทุกวัน (บัตรและการโอนออนไลน์ที่กำหนดเป็นสกุลเงินของประเทศของคุณ) คือสกุลเงินชนิดนี้ไม่ได้ออกโดยธนาคารหรือรัฐบาลใด ๆ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่น ๆ จำนวนมาก เช่น Litecoin และ Ethereum ได้รับการสร้างขึ้นผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การขุดเหมือง" (Mining) ขณะที่สกุลเงินอื่น ๆ เช่น Ripple และ Neo นั้นถูกจัดหาให้โดยตรงในตลาด สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Pre-mine
ก่อนที่เราจะลงลึกไปในสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เรามาดูเรื่อง Bitcoin กันก่อนดีกว่า การทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Bitcoin (บิตคอยน์) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจเพิ่มสกุลเงินดิจิทัลเข้าไว้ในการซื้อขายของพวกเขา Bitcoin สร้างขึ้นในปี 2009 โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนิรนามภายใต้ชื่อเล่น Satoshi Nakamoto ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ชำระเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานส่วนกลาง
แนวคิดปฏิวัตินี้มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยีที่ปฏิวัติพอ ๆ กัน ที่เรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain) โดยให้นึกถึงบล็อกเชนว่าเป็นเอกสารที่เปิดเผยต่อสาธารณะที่ได้เก็บข้อมูลการทำธุรกรรมเกี่ยวกับ Bitcoin ทุกรายการไว้ เหตุผลที่ Bitcoin สามารถทำงานโดยไม่จำเป็นต้องมีธนาคารได้นี้ก็เพราะเทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นและตรวจสอบธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลได้
เครือข่าย Bitcoin
1. อุปทานที่มีจำกัด Satoshi ตั้งโปรแกรม Bitcoin ไว้ให้มีอุปทานที่ 21 ล้าน นี่เป็นข้อมูลสำคัญชิ้นหนึ่งเวลาประเมินราคาของสินทรัพย์ หมายความว่าไม่มีธนาคารใดที่สามารถเพิ่มเงินเข้าไปในตลาดได้มากขึ้นอีก (รูปแบบหนึ่งที่ธนาคารกลางทำก็คือที่เรียกว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing)) ด้วยเหตุผลนี้ Bitcoin จึงมักถูกมองว่าเป็นตัวกันเงินเฟ้อและมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับทองคำ
2. สามารถขุดได้ Bitcoin สร้างขึ้นจากการขุดเหมือง (Mining) ซึ่งหมายความว่า นักพัฒนาเข้าร่วมเครือข่ายและอาสาที่จะตรวจสอบการทำธุรกรรมเกี่ยวกับ Bitcoin เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้โดยไม่มีหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ในทางกลับกัน พวกเขาได้รับรางวัลเป็น Bitcoins สำหรับเวลาและพลังงานไฟฟ้าที่พวกเขาใช้ไปเพื่อการนั้น
3. ธุรกรรมที่รวดเร็ว ธุรกรรมเกี่ยวกับ Bitcoin มีการตรวจสอบโดยเฉลี่ยทุก ๆ 10 นาที ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถใช้ Bitcoin เพื่อส่งเงินได้ทุกที่ในโลกภายใน 10 นาทีแม้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้จะฟังดูน่าประทับใจ แต่ Bitcoin ก็ไม่ใช่วิธีการชำระเงินที่เร็วที่สุดอีกต่อไป เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลใหม่ ๆ ที่เน้นกันที่ความเร็วในการทำธุรกรรม
เมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินที่ออกโดยธนาคาร หรือที่รู้จักกันในชื่อ เงินกระดาษ (Fiat Currency) ความผันผวนของตลาดสกุลเงินดิจิทัลนั้นถือว่าแปลกประหลาด เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ความผันผวนรายสัปดาห์ทั่วไปสำหรับคู่ฟอเร็กซ์นั้นต่ำกว่า 1% ตรงกันข้าม ความผันผวนรายสัปดาห์ของ Bitcoin กลับสูงถึง 60% ต่อปีในปี 2017 ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลตัวอื่น ๆ แกว่งไปมามากยิ่งกว่านั้นอีก ดังนั้น อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุของความผันผวนนี้ ประวัติศาสตร์ตลาดสอนเราว่า เมื่อตลาดยังใหม่ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างกะทันหัน เพราะเทรดเดอร์และนักลงทุนรับเอาข้อมูลใหม่ ๆ มา ช่วงเวลาที่ราคาพุ่งทะยานขึ้นจะตามมาด้วยช่วงเวลาที่ราคาตกฮวบจนกว่าตลาดจะมั่นคง ในขณะที่บางคนอาจแย้งว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัลนั้นเคลื่อนไหวในลักษณะคล้ายฟองสบู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระดับความผันผวนในปัจจุบันให้โอกาสมากมายแก่เทรดเดอร์แบบซื้อขายรายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ Bitcoin ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อพิจารณาถึงความผันผวน เรามาดูการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรุนแรงที่ Bitcoin ได้ประสบมาตั้งแต่ปี 2013 กัน
กราฟราคา Bitcoin ปี 2013 - 2017
Spring 2013 highs: การกระโดดครั้งใหญ่ครั้งแรกของ Bitcoin คือจาก $30 ไปเป็น $230 และเกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน 2013 หนึ่งในเหตุผลที่เป็นไปได้คาดว่าเป็นเพราะการร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินของไซปรัสและการยึดเงินฝากจำนวนมากของธนาคาร เงินทุนที่ถือไว้ใน Bitcoin มีภูมิคุ้มกันต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
November 2013 jump: Bitcoin คว้าพาดหัวข่าวอีกครั้งสำหรับการขึ้นถึง $1,000 เนื่องจากความต้องการ Bitcoin จากจีนเพิ่มขึ้นและวุฒิสภาสหรัฐแสดงความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางนี้
January 2015 lows: Bitcoin ดิ่งลงตามข้อจำกัดที่กำหนดขึ้นในประเทศจีนและการถูกจำคุกของ William Ulbricht ผู้สร้าง Silk Road แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ขายยาเสพติดที่ผิดกฎหมายออนไลน์
2017 highs: Bitcoin ทำราคาทะลุ $10,000 เทรดเดอร์และนักลงทุนไม่สามารถทำเป็นเพิกเฉยต่อสกุลเงินดิจิทัลได้อีกต่อไป