การวิเคราะห์ทางเทคนิค
การวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ได้กับตราสารทุกประเภทที่คุณซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี สกุลเงินดิจิทัล หรือฟอเร็กซ์ เนื่องจากราคาได้รับอิทธิพลจากแรงผลักดันของอุปสงค์และอุปทาน
วัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์คือการพยายามทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต และสามารถทำได้ในกรอบเวลาขนาดใด ๆ ตั้งแต่หนึ่งนาทีไปจนถึงหนึ่งเดือนและกรอบเวลาทุกขนาดระหว่างนั้น
การวิเคราะห์กราฟ
การวิเคราะห์กราฟสามารถเป็นวิธีการสำคัญในการซื้อขายในตลาด และการติดตามแนวโน้มก็สามารถเป็นมาตรวัดที่ดีว่าจะเข้าตลาดเมื่อใด
ยกตัวอย่างแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาขึ้นที่สุขภาพดีจะมีชุด Higher High และ Higher Low ซึ่งมีศักยภาพที่จะเข้าสู่ตลาดทั้งคู่
ตัวชี้วัดอื่นที่คุณสามารถใช้หาความแข็งแกร่งของแนวโน้มก็คือ MACD ซึ่งเป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่รวมเข้ากับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) – 9 EMA (Exponential Moving Average) โดย MACD จะให้ทั้งการติดตามแนวโน้มและโมเมนตัม
MACD จะแกว่งขึ้นสูงกว่าและลงต่ำกว่าเส้นศูนย์ ขณะที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ลู่เข้าหากัน ตัดกัน และลู่ออกจากกัน คุณสามารถมองหาจุดตัดข้ามเส้นสัญญาณ จุดตัดข้ามเส้นศูนย์ และการลู่ออกเพื่อสร้างสัญญาณได้
หาก MACD อยู่เหนือ 9 EMA โมเมนตัมจะเป็นภาวะกระทิง (Bullish) และ MACD อยู่ต่ำกว่า 9 EMA โมเมนตัมจะเป็นภาวะหมี (Bearish)
ตัววัดโมเมนตัมอีกตัวที่วัดความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคาก็คือ RSI (Relative Strength Index)
โดยใช้ RSI คุณสามารถระบุบริเวณที่ซื้อมากจนเกินไป (เมื่อ RSI สูงกว่า 70) และพื้นที่ที่ขายมากจนเกินไป (เมื่อ RSI ต่ำกว่า 30) บนกราฟ และจุดที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวได้อย่างรวดเร็ว
RSI จะมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อเมื่อมีการลู่ออกระหว่างมันและพฤติกรรมราคา การลู่ออก (Divergence) เกิดขึ้นเมื่อพฤติกรรมราคาและ RSI ไม่ตรงกัน และเมื่อคุณเห็นสิ่งนี้ คุณอาจเริ่มเตรียมเข้าสู่ตลาด หรือออกจากตลาดถ้าคุณถือสถานะไว้อยู่แล้ว