วิธีการซื้อขายเงิน 

อะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อราคาของเงิน

นี่คือปัจจัยหลักสามประการที่เป็นตัวกำหนดราคาของเงิน
 

• อุปสงค์และอุปทานของเงิน - เช่นเดียวกับสินค้าอื่น ๆ ทุกตัว ราคาพื้นฐานของเงินจะถูกกำหนดโดยการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์รวมถึงความต้องการใช้โลหะของอุตสาหกรรมด้วย

• เทคโนโลยี -  การนำเงินมาใช้ในอุตสาหกรรมรวมถึงเทคโนโลยีสีเขียวและระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเกิดเป็นที่ต้องการสูงในทุกวันนี้ อุปสงค์ของเงินเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความต้องการนำไปใช้งานด้านอุตสาหกรรม และดังนั้นราคาจึงได้รับผลกระทบไปด้วย

• ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ -  เนื่องจากเงินถูกแสดงราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐ ราคาของเงินจึงมีความสัมพันธ์แบบผกผันกันกับค่าเงินดอลลาร์ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะผลักราคาเงินให้ต่ำลง ซึ่งมักจะถูกมองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่มั่นใจว่าราคาจะสูงขึ้นที่จะเข้าซื้อ

สหสัมพันธ์ของราคาระหว่างเงินและทองคำ

แม้พื้นฐานของเงินจะแตกต่างจากของทองคำ แต่ก็มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างราคาทองคำและเงิน เนื่องจากโลหะมีค่าทั้งสองนั้นได้ถูกซื้อขายโดยนักลงทุนรายเดียวกัน สิ่งที่ทำให้ทองคำมีความเป็นผู้นำที่ชัดเจนเหนือกว่าเงินคือวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008 ราคาเงินตามอย่างมาอย่างรวดเร็วด้วยความผันผวนที่มากขึ้นอย่างมาก ตราบใดที่โลหะทั้งสองยังคงถูกซื้อขายมูลค่าทางการเงินของพวกมันเป็นส่วนใหญ่ คาดว่าความสัมพันธ์จะยังคงเหมือนเดิม 

ตัวอย่างการซื้อขายเงิน

สมมติว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคของคุณในกราฟรายวันของเงินบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงที่ราคาเงินจะตกลง คุณขาย XAG/USD 1 ล็อต (5,000 ออนซ์) ในราคา $16.38 ขนาดสถานะนี้เท่ากับกำไรหรือขาดทุน $50 สำหรับการขยับของราคาเงินทุก ๆ 1 เซ็นต์

หลังจากวันนั้น เงินมีการซื้อขายกันที่ $16.25 และคุณตัดสินใจปิดสถานะของคุณ กำไรที่ทำได้จากการซื้อขายคำนวณดังนี้: การเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นเซ็นต์ x $50 = 13 x $50 = $650

ทองคำและเงินอาจเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดโลหะ แต่ก็ไม่ได้มีแต่พวกมันเท่านั้น ด้วยเทรดเดอร์หันไปหาโลหะมีค่ากันมากยิ่งขึ้น แพลตตินัมจึงเริ่มได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกในการซื้อขาย