ข้อมูลเศรษฐกิจ
ข้อมูลเช่น CPI, ข้อมูลการจ้างงาน, และยอดค้าปลีก สะท้อนถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และเป็นพื้นฐานในการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
Articles (2)
Non-Farm Payroll (NFP) คืออะไร? ผลกระทบต่อ Forex และการเงิน
<p>ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ทำหน้าที่เป็นภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้แนวคิดคร่าวๆ ว่าเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา อยู่ในสภาพดีหรือไม่<br /> <br /> ข้อมูลนี้มีความสำคัญต่อ Federal Reserve ในการปรับนโยบายการเงินของธนาคาร ซึ่งส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ในระดับที่แตกต่างกัน ดังนั้นการทำความเข้าใจข้อมูล Non-Farm Payroll และการเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ<br /> </p> <h2>1. Non-Farm Payroll คืออะไร?</h2> <p>Non-Farm Payroll (NFP) เป็นดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญประกาศทุกเดือนโดยสำนักงานสถิติแรงงานแห่งสหรัฐอเมริกา โดยหลักแล้วสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในจำนวนการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐอเมริกา<br /> <br /> ข้อมูล NFP จะเผยแพร่เดือนละครั้ง โดยปกติในวันศุกร์แรกของแต่ละเดือน เวลา 8.30 น. ตามเวลาตะวันออก (19.30 น. ตามเวลาไทย)<br /> <br /> องค์ประกอบของข้อมูล Non-Farm Payroll ประกอบด้วย:</p> <h3>1.1 การจ้างงานนอกภาคเกษตร</h3> <p>ข้อมูลที่สำคัญที่สุดในรายงาน NFP ซึ่งแสดงจำนวนงานนอกภาคเกษตรใหม่หรือที่สูญหายไปในเดือนก่อนหน้า โดยทั่วไปตัวเลขที่สูงกว่าบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ตัวเลขที่ต่ำกว่าอาจบ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ</p> <h3>1.2 อัตราการว่างงาน</h3> <p>อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญในรายงาน NFP ระบุสัดส่วนของกำลังแรงงานที่ว่างงาน การเปลี่ยนแปลงของอัตราการว่างงานให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาวะของตลาดแรงงาน</p> <h3>1.3 รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง</h3> <p>การเปลี่ยนแปลงของรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของการเติบโตของค่าจ้าง การเติบโตของค่าจ้างอาจส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อ ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอาจบ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่ตึงตัว ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ เสนอค่าจ้างที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานไว้<br /> </p> <h2>2. ผลกระทบของ Non-Farm Payroll ในตลาด Forex</h2> <p>ข้อมูล Non-Farm Payroll มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในตลาดและการคาดการณ์นโยบายของ Federal Reserve ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐ<br /> <img alt="NFP ส่งผลต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างไร" src="~/getmedia/997d71f8-5839-426d-93be-4835cbb9d52e/how-nfp-affects-us-dollar.png" title="NFP ส่งผลต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างไร" width="100%" /><br /> <br /> เมื่อข้อมูล NFP เกินความคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเติบโตของงานที่แข็งแกร่งและการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอย่างรวดเร็ว ก็มักจะเพิ่มความคาดหวังด้านเงินเฟ้อ เนื่องจากความรัดกุมของตลาดแรงงานอาจนำไปสู่แรงกดดันด้านค่าจ้าง ส่งผลให้ระดับราคาโดยรวมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งยังชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น<br /> <br /> ในสถานการณ์เช่นนี้ ตลาดอาจคาดการณ์ถึงจุดยืนของนโยบายการเงินแบบเงินฝืดมากขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐ เช่น การเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการยืดวงจรที่เข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ โดยทั่วไปความคาดหวังนี้จะสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ<br /> <br /> ในทางกลับกัน ข้อมูล NFP ที่อ่อนแออาจลดความคาดหวังด้านเงินเฟ้อลง โดยความคาดหวังของนโยบาย Fed ที่ผ่อนคลายมากขึ้น อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง</p> <h2><br /> 3. ผลกระทบของข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรในปีที่ผ่านมาต่อดอลลาร์</h2> <p>ต่อไปเรามาดูกันว่าการเปิดเผยข้อมูล NFP ในอดีตมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์สหรัฐอย่างไร<br /> <img alt="ผลกระทบของ NFP ต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา" src="~/getmedia/d1404741-0b4c-42c6-bcd5-7b5d8eaf67bf/impact-of-nfp-on-the-us-dollar-over-the-past-year.png" title="ผลกระทบของ NFP ต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา" width="100%" /><br /> <br /> กราฟแสดงข้อมูล NFP ในปีที่ผ่านมาและก็เห็นการเคลื่อนไหวที่ตามมาในดัชนีดอลลาร์ เราจะสังเกตได้ว่าเมื่อข้อมูล NFP เกินความคาดหมายของตลาด โดยทั่วไปแล้วดัชนีดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น และแนวโน้มนี้มักจะคงอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง<br /> <br /> ดังนั้นการประกาศข้อมูล NFP จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ การทำความเข้าใจว่าข้อมูล NFP ส่งผลต่อเงินดอลลาร์อย่างไรสามารถช่วยให้เทรดเดอร์มีข้อมูลในการตัดสินใจซื้อขายได้มากขึ้น</p> <h2><br /> 4. คู่สกุลเงินและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อาจได้รับผลกระทบจากบัญชีเงินเดือนนอกภาคเกษตร</h2> <p>เนื่องจากข้อมูลบัญชีเงินเดือนนอกภาคเกษตรส่งผลโดยตรงต่อการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเงินดอลลาร์สหรัฐจึงได้รับผลกระทบ</p> <h3>4.1 คู่สกุลเงิน USD</h3> <p>ข้อมูลการจ่งงานนอกภาคเกษตรมีผลกระทบโดยตรงและเห็นได้ชัดเจนที่สุดต่อคู่สกุลเงินหลัก หากข้อมูล NFP เกินความคาดหมายของตลาด โดยทั่วไปเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ</p> <h3>4.2 ทองคำ</h3> <p>เนื่องจากทองคำมีราคาเป็นดอลลาร์ ข้อมูล NFP ที่แข็งแกร่งมักจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำลดลง นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะถือดอลลาร์มากกว่าทองคำในช่วงที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์และราคาทองคำลดลงอีก</p> <h3>4.3 น้ำมันดิบ</h3> <p>แม้ว่าน้ำมันดิบจะมีการกำหนดราคาเป็นดอลลาร์เช่นกัน แต่ผลกระทบของข้อมูล NFP ที่มีต่อราคาน้ำมันนั้นยังไม่แน่นอน ข้อมูล NFP ที่แข็งแกร่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นสามารถเพิ่มความต้องการน้ำมันและผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นได้</p> <h3>4.4 ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ</h3> <p>ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ในทำนองเดียวกัน แต่ผลกระทบเฉพาะนั้นขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน:</p> <h4>4.4.1 ช่วงเงินเฟ้อสูง</h4> <p>ในช่วงเงินเฟ้อสูง ข้อมูล NFP ที่แข็งแกร่งอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อโดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมและอาจระงับการเติบโตทางเศรษฐกิจ<br /> <br /> หากข้อมูล NFP เกินความคาดหมาย ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ อาจลดลง เนื่องจากตลาดกลัวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลเสียต่อรายได้ของบริษัท<br /> <br /> ในทางกลับกัน หากข้อมูล NFP ต่ำกว่าการคาดการณ์ ตลาดอาจตีความสิ่งนี้ว่าเป็นสัญญาณว่า Fed อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อตลาดหุ้น นักลงทุนอาจคาดหวังนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นหุ้น</p> <h4>4.4.2 อัตราเงินเฟ้อต่ำหรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ</h4> <p>ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อต่ำหรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยทั่วไปข้อมูล NFP ที่แข็งแกร่งมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งบอกถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและแนวโน้มผลกำไรขององค์กรที่ดี โดยทั่วไปแล้วตลาดหุ้นจะตอบสนองเชิงบวกต่อข้อมูลดังกล่าว โดยผลักดันดัชนีหลักให้สูงขึ้น<br /> <br /> ในทางกลับกัน ข้อมูล NFP ที่ต่ำกว่าคาดการณ์อาจก่อให้เกิดความกังวลในตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซาและแนวโน้มผลกำไรขององค์กรที่ย่ำแย่</p> <p><br /> สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง ข้อมูล NFP อาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อหุ้นเทคโนโลยี (แสดงโดยดัชนี Nasdaq 100) เนื่องจากหุ้นเหล่านี้มีความอ่อนไหวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย</p> <h2><br /> 5. บทสรุป</h2> <p>ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดฟอเร็กซ์ หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ (โดยเฉพาะทองคำ) ข้อมูล NFP ที่แข็งแกร่งมักนำไปสู่การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง<br /> <br /> เทรดเดอร์ควรติดตามข้อมูล NFP อย่างใกล้ชิด วิเคราะห์ความคาดหวังของนักลงทุนในตลาดและข้อมูลจริงที่ประกาศ และกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายที่รอบคอบเพื่อควบคุมความผันผวนของตลาดและคว้าโอกาสในการลงทุน</p>
เรียนรู้เกี่ยวกับ CPI ใน 5 นาที! เราจะวิเคราะห์ข้อมูล CPI ได้อย่างไร?
<p><strong>ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) </strong>ของสหรัฐอเมริกาเป็นตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงระดับเงินเฟ้อเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อมูลค่าสกุลเงินของประเทศต่างๆ ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ มักจะกลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุน เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของสกุลเงิน หรืออัตราแลกเปลี่ยน<br /> </p> <p>เนื่องจากเป็นสกุลเงินสำรองที่สำคัญของโลก แนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐจึงมักจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากข้อมูล CPI<br /> </p> <p>ในบทความนี้เราจะอธิบายอย่างละเอียดว่า CPI และ Core CPI คืออะไร? จะหาข้อมูล U.S. CPI ได้ที่ไหน? และ CPI ส่งผลต่อทิศทางแนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไร?<br /> </p> <h2>1. ดัชนีราคาผู้บริโภคคืออะไร</h2> <p>ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นตัวบ่งชี้ทางสถิติที่สำคัญในทางเศรษฐศาสตร์ การวัดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยของราคาสินค้าและบริการ ที่ครัวเรือนโดยเฉลี่ยซื้อในช่วงเวลาที่กำหนด หาก CPI เป็นบวก หมายความว่าราคาสินค้าในตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานั้น (เงินเฟ้อ) เมื่อ CPI เป็นลบ หมายความว่าราคาสินค้าในตลาดลดลง (ภาวะเงินฝืด)</p> <br /> <img alt="แผนภูมิ-ดัชนีราคาผู้บริโภค-หมวดหมู่สินค้าหลัก" src="~/TMXWebsite/media/TMXWebsite/TH_culture_images/Article%20Image%20Knowledge%20Hub%20TH/chart-cpi-basket-main-products-categories-thai.png" title="แผนภูมิ-ดัชนีราคาผู้บริโภค-หมวดหมู่สินค้าหลัก" width="100%" /> <p>สำหรับเทรดเดอร์แล้ว CPI สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อภายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และสามารถนำมาใช้ในการคาดการณ์สภาวะเศรษฐกิจและนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในอนาคต ข้อมูล CPI ที่สูงมักส่งผลให้<strong>ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น</strong> ในขณะที่ข้อมูล CPI ที่ต่ำอาจทำให้<strong>ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง</strong>ได้</p> <p><br /> ** สำหรับผู้อ่านที่ต้องการทำความเข้าใจในเรื่อง CPI ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีคำนวณ CPI (ไฮเปอร์ลิงก์) เพื่อทำความเข้าใจการรวบรวมข้อมูลและตรรกะเบื้องหลังการคำนวณ</p> <h2>2. Core CPI คืออะไร</h2> <p>นอกจาก CPI แล้ว เรามักจะเห็นดัชนีราคาผู้บริโภคหลัก (Core CPI) ซึ่งจะคำนวณโดยไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานมีความผันผวนที่อ่อนไหวตามปัจจัยที่ไม่สามารถความคุมได้ เช่น ฤดูกาล ซึ่งส่งผลต่อการประเมินอัตราเงินเฟ้อในระยะสั้น ในขณะที่ Core CPI <strong>สะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวได้ดีกว่า </strong>ข้อมูล Core CPI จึงส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐด้วย ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมต่อทิศทางแนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐ</p> <h2>3. วิธีอ่านข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ</h2> <p>ข้อมูล CPI จะเผยแพร่เดือนละครั้ง โดยปกติแล้วจะเป็นวันพฤหัสบดีที่ 2 ของแต่ละเดือน เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย<br /> </p> <p>คุณสามารถสามารถดูข้อมูล CPI ได้ใน ThinkTrader โดยตรง หลังจากเข้าสู่ระบบ ThinkTrader แล้ว ให้คลิกที่<strong>สัญลักษณ์ปฏิทิน</strong>ทางด้านซ้ายแล้วเลือกวันที่ ลูกค้าที่ยังไม่มีบัญชีสามารถ<a href="https://portal.thinkmarkets.com/account/register/live?lang=th">คลิกที่นี่</a>เพื่อลงทะเบียนเปิดบัญชีได้เลย</p> <img alt="ThinkTrader: อินเทอร์เฟซที่สามารถดูข้อมูล CPI ได้" src="~/getmedia/20755d1b-d053-4220-a89a-96ca5931339a/thinktrader-interface-that-can-view-cpi-data-thai.png" title="ThinkTrader: อินเทอร์เฟซที่สามารถดูข้อมูล CPI ได้" width="100%" /><br /> <img alt="คาดการณ์ข้อมูล CPI ในกราฟ" src="~/getmedia/98f76be6-fd8c-4f0e-a0da-6693cc5990ea/forecast-CPI-data-in-graph-thai.png" title="คาดการณ์ข้อมูล CPI ในกราฟ" width="100%" /> <p><br /> ข้อมูล CPI มักจะเผยแพร่เป็นเปอร์เซ็นต์ จากตัวอย่างในแผนภูมิข้างต้นเป็นข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมิถุนายน และลดลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งหมายความว่า CPI ในสหรัฐอเมริกาในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 3.0% จากเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว แต่ลดลง 0.1% จากเดือนพฤษภาคมปีนี้</p> <br /> <a href="https://portal.thinkmarkets.com/account/register/live?lang=th">ลงทะเบียนและรับข้อมูล CPI ล่าสุดทันที!</a> <h2>4. ข้อมูล CPI ส่งผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างไร</h2> <p>ข้อมูล CPI ไม่เพียงแต่เป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) โดยเฉพาะอย่างยิ่งทิศทางแนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐ การทำความเข้าใจว่า CPI ส่งผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างไรสามารถช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดีขึ้นและกำหนดกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br /> <img alt="CPI ข้อมูลมีผลกระทบต่อดอลลาร์อย่างไร" src="~/TMXWebsite/media/TMXWebsite/TH_culture_images/Article%20Image%20Knowledge%20Hub%20TH/how-cpi-data-affects-the-dollar-thai.png" title="CPI ข้อมูลมีผลกระทบต่อดอลลาร์อย่างไร" width="100%" /><br /> <br /> เมื่อข้อมูล CPI สูงกว่าเป้าหมายของ Fed แสดงว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างร้องแรงเกินไป ซึ่งจะนำไปสู่ความกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐใช้มาตรการเพื่อกระชับนโยบายการเงิน เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของสินทรัพย์อย่างเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น</p> <p><br /> ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่น ๆ ก็เพิ่มขึ้น ทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ นักลงทุนทั่วโลกจะลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น <strong>พันธบัตรและหุ้นของสหรัฐฯ</strong> มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มมากขึ้น การไหลเข้าของเงินทุนนี้ผลักดันให้<strong>ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น</strong><br /> <br /> ดังนั้น ข้อมูล CPI ที่สูงมักจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ในขณะที่ข้อมูล CPI ที่ต่ำอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงได้</p> <h2>5. แนวโน้มในอดีตของ CPI และดอลลาร์สหรัฐ</h2> <img alt="กราฟ ความสัมพันธ์ระหว่าง CPI และแนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐ" src="~/TMXWebsite/media/TMXWebsite/TH_culture_images/Article%20Image%20Knowledge%20Hub%20TH/graph-relationship-between-cpi-and-us-dollar-trend-thai.png" title="กราฟ-ความสัมพันธ์ระหว่าง CPI และแนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐ" width="100%" /> <p><br /> จากการสังเกตข้อมูลในอดีต <strong>อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา (CPI) </strong>และ <strong>ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) </strong>เราจะสามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่าง CPI และแนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐได้อย่างชัดเจน ข้อมูลดังกล่าวเป็นการยืนยันให้เราเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ด้วย<br /> <br /> ดังที่คุณเห็นจากกราฟ เมื่อความกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น มักจะกระตุ้นให้ตลาดคาดหวังให้ FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น ในช่วงปี 2021 และ 2022 ตัวเลข CPI ของสหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอัตราเงินเฟ้อก็ขึ้นถึงจุดสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อความกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐจึงถูกบังคับให้ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นและ<strong>ขึ้นอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น</strong>ในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของสินทรัพย์อย่างเงินดอลลาร์สหรัฐ<br /> <br /> <a href="https://portal.thinkmarkets.com/account/register/live?lang=th">เริ่มต้นซื้อขายดัชนีดอลลาร์ (DXY) เริ่มต้นเพียง $10 เท่านั้น!</a></p> <h2>สรุป</h2> <p><br /> ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นเครื่องมือสำคัญในการ<strong>วัดระดับราคาและอัตราเงินเฟ้อ</strong> มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจและการกำหนดนโยบาย เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับข้อมูล CPI และกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการคาดการณ์ของตลาดและข้อมูลเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดและคว้าโอกาสในการลงทุน</p>
ข้อมูลเศรษฐกิจ
ข้อมูลเช่น CPI, ข้อมูลการจ้างงาน, และยอดค้าปลีก สะท้อนถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และเป็นพื้นฐานในการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาง